ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศในช่วงวันนี้ 21-24 ก.ค.68 ภาคเหนือตอนบนรวมถึงจังหวัดพิจิตร จะได้รบผลกระททบจาก “พายุใต้ฝุ่นวิภา” ซึ่งในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาระดับน้ำในแม่น้ำน่าน-แม่น้ำยม มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นจ่อล้นตลิ่งทำให้ชาวนาในที่ลุ่มแม่น้ำยมฝั่งขวาต่างเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำท่วมเผยสุดช้ำใจราคาข้าวขายได้แค่เพียงตันละ 5,800 บาท เท่านั้น วอนรัฐบาลช่วยเยียวยา
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 นายมานะ บุญผ่อง อายุ 68 ปี อดีตกำนันตำบลรังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ซึ่งประกอบอาชีพทำนา โดยในปีนี้ทำนา 70 ไร่ ซึ่งที่นาอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำยมในพื้นที่ ต.รังนก อ.สามง่าม ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำ เมื่อถึงฤดูน้ำหลากก็จะถูกน้ำท่วมจึงทำให้ชาวนาแถบนี้รู้ดีว่าจะต้องปลูกข้าวให้เสร็จสิ้นก่อน 10 เมษายน ของทุกปีเพื่อให้ต้นข้าวมีอายุ 120 วัน
ซึ่งถ้านับวันแล้วก็จะต้องเกี่ยวข้าวให้แล้วเสร็จก่อน(วันแม่) 12 สิงหาคม ของทุกปี เพราะหลังจากนั้นทุ่งนาแถบนี้ก็จะกลายเป็นทุ่งรับน้ำให้ชาวบ้านได้หาปลาเป็นอาชีพเสริม แต่ในปีนี้น้ำมาเร็วกว่าปกติจึงทำให้ต้องเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำทั้งๆที่ ข้าวมีอายุได้แค่เพียง 100 วันเท่านั้น
โดย นายมานะ อดีตกำนันตำบลรังนก กล่าวว่าตนเองปลูกข้าวพันธุ์ กข.63 จำใจต้องจ้างรถเกี่ยวข้าวมาเกี่ยวข้าวในราคาไร่ละ 400-500 บาท เพื่อเกี่ยวข้าวหนีน้ำท่วม เพราะนอกจากน้ำจะไหลมาจากทางภาคเหนือ คือมาจาก แม่น้ำยม ซึ่งน้ำไหลมาจาก จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก แล้วก็ยังมีทางด้านทิศตะวันตก คือ น้ำจาก จ.กำแพงเพชร ไหลเข้ามาทางคลองธรรมชาติมาทาง ต.หนองโสน ต.เนินปอ ผ่านบ้านสระยายชีเข้ามาที่ ต.รังนก เพื่อไหลลงแม่น้ำยม และนอกจากนี้ก็มีน้ำจากคลองบ้านนา อ.วชิรบารมี ที่รับน้ำมาจาก อ.บางระกำ ก็ไหลรวมมาที่ ต.รังนก ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำอีกด้วย
นายมานะ บุญผ่อง อดีตกำนันตำบลรังนก กล่าวต่ออีกว่า ทำนาปีนี้นอกจากต้องเกี่ยวข้าวหนีน้ำแล้วก็ยังต้องเจอกับราคาข้าวเปลือกที่ตกต่ำ โดยข้าวเปลือกของตนเองและเพื่อนบ้านที่เกียวหนีน้ำเพื่อเอาไปขายในช่วงนี้ ท่าข้าว-โรงสี ตีราคารับซื้อแค่เตียงตันละ 5,800-5,900 บาท เท่านั้นเอง ยอมรับว่าทำนาปีนี้ขาดทุนแน่นอนจึงอยากวิงวอนให้รัฐบาลช่วยเหลือหรือพยุงราคาข้าวให้กับชาวนาด้วย
โดย…สิทธิพจน์ เกบุ้ย/พิจิตร/