เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอมและกล้วยน้ำว้ารายใหญ่ของ จ.ราชบุรี ชี้ ผลผลิตช่วงกลางปีที่ผ่านมาลดฮวบฮาบเพราะอากาศร้อนและภัยแล้ง โดยราคาหน้าสวน กล้วยหอมหวีละ 40-50 บาท กล้วยน้ำว้าขายหวีละ 20-30 บาท แม้ราคาจะแพงพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แต่ก็ไม่มีกล้วยพอขาย พอกล้วยออกมาก็ถูกกดราคาอีก ทำให้ชาวสวนลำบาก ไม่เคยลืมตาอ้าปากได้สักที
จากกรณีภัยแล้งส่งผลกระทบ กล้วยหอมและกล้วยน้ำว้าขาดตลาด พบราคาแพงมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ตกหวีละ 40-70 บาท ส่งผลกระทบผู้บริโภคและผู้ที่ต้องใช้กล้วยเป็นวัตถุดิบแปรรูป เพราะต้นทุนสูงขึ้น 2-3 เท่า
วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสวนกล้วย น.ส.ปัทมาพร แก้วเลื่อนมา หรือ คุณตุ่ม อายุ 57 ปี ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอมและกล้วยน้ำว้ารายใหญ่ใน จ.ราชบุรี และเป็นผู้ประกอบการผลิตกล้วยแปรรูปในแบรนด์ “กล้วยลืมเบรค” คุณตุ่ม เจ้าของสวนและผู้ประกอบการ บอกว่าสาเหตุที่ราคากล้วยแพงเพราะภาวะภัยแล้ง ส่งผลให้ผลผลิตกล้วยไม่ได้คุณภาพ ไม่สมบูรณ์ ลีบ และมีรอยช้ำ บางต้นจะได้กล้วยที่สมบูรณ์น้อยมาก ทั้งต้องมาลุ้นต่อว่าผลผลิตที่ออกมาจะได้คุณภาพตามที่ตลาดต้องการหรือไม่ ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่ความต้องการของผู้บริโภคและผู้ต้องการใช้กล้วยเป็นวัตถุดิบยังคงเท่าเดิม จึงทำให้กล้วยหอมและกล้วยน้ำว้ามีราคาสูงขึ้นกว่าทุกรอบปี ถือว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนระยะเวลาในการปลูกกล้วยหอมและกล้วยน้ำว้า จะใช้เวลาเพราะปลูก 8 เดือน ส่วนต้นทุนการเพาะปลูกจะมีค่ายา ค่าปุ๋ย ตอนนี้ราคากล้วยหอมหน้าสวนขายหวีละ 40-50 บาท ส่วนกล้วยน้ำว้าขายหวีละ 20-30 บาท ซึ่งวงรอบการเพาะปลูกของกล้วย ช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. กล้วยจะมีผลผลิตน้อยและเป็นช่วงขาดตลาดของกล้วยหอมและกล้วยน้ำว้าอยู่แล้ว แต่ปีนี้แล้งจัดจึงทำให้กล้วยขาดตลาด เพราะเกษตรกรไม่มีผลผลิต ทำให้มีความต้องการสูง ประกอบกับมีความต้องการใช้กล้วยหอมในเทศกาลตรุษจีน จึงทำให้ยิ่งขาดตลาดหนัก ส่งผลให้มีราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์
น.ส.ปัทมาพ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ทางเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอมและกล้วยน้ำว้า ไม่ได้ดีใจที่ราคากล้วยสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เพราะถึงราคาขึ้นสูงแต่กลับไม่มีผลผลิตขาย แต่พอมีผลผลิตออกจำหน่ายสู่ตลาด ราคากลับตกต่ำ ชีวิตเกษตรกรชาวสวนลำบาก ไม่เคยลืมตาอ้าปากได้สักที บางทีราคากล้วยจะถูกจะแพงขึ้นอยู่กับพ่อค้าคนกลางด้วย ช่วงนี้ราคาแพง พ่อค้าคนกลางถึงขนาดมาจับจองกันหน้าสวนเลยทีเดียว แต่ช่วงมีผลผลิตเกษตรกรกลับถูกกดราคา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหานี้ให้เกษตรกรสามารถอยู่รอดได้.