Sunday, 6 October 2024 - 8 : 20 am
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

กรมชลฯแนะเกษตรกรทำนาแบบเปียกสลับแห้ง รับมือ “วิกฤติภัยแล้ง”

กรมชลประทานเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำปัจจุบัน พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 58,517 ล้าน ลบ.ม. (77% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 17,138 ล้าน ลบ.ม. (69% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) กรมชลประทานได้วางแผนจัดสรรน้ำช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 ตามปริมาณน้ำต้นทุนที่มี ด้วยการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก รักษาระบบนิเวศ การเกษตร อุตสาหกรรม และสำรองไว้ใช้ในต้นฤดูฝนหน้าตามลำดับ จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้งทั้งประเทศไปแล้วกว่า 7,369 ล้าน ลบ.ม. (34%) เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 2,163 ล้าน ลบ.ม. (36%)

ปัจจุบันทั้งประเทศมีการเพาะปลูกข้าวนาปรังไปแล้ว 5.58 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 96 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยา มีการเพาะปลูกข้าวนาปรังไปแล้ว 4.09 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 135 ของแผนฯ ภาพรวมสถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ถึงอย่างไรยังคงต้องติดตามพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังอย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำให้เกษตรกรและประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงผลผลิตเสียหาย รวมทั้งรณรงค์ให้เกษตรกรเก็บกักน้ำไว้ในบ่อสำรอง เพื่อสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้า ตลอดจนเชิญชวนให้เกษตรกรหันมาทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำได้ถึง 20 -30 เปอร์เซนต์ เพื่อเป็นการประหยัดน้ำ ทั้งยังช่วยลดการใช้ปุ๋ย ทำให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย

สำหรับพื้นที่ภาคใต้บริเวณจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ที่ประสบปัญหาอุทกภัยในช่วงปลายเดือนธันวาคม 66 ที่ผ่านมา ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลัก อาทิ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำโกหก เริ่มคลี่คลายแล้ว ยังคงเหลือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งที่แม่น้ำปัตตานี บริเวณบ้านบริดอ อ.ปัตตานี สำนักงานชลประทานที่ 17 โดยโครงการชลประทานปัตตานี ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 -3 สัปดาห์นี้

กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

© 2021 thairemark.com