เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงวัวโคราชวากิวระบบปิด ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) จ.นคราชสีมา ชมโรงชำแหละและตัดแต่งเนื้อวัวโคราชวากิว และชมฟาร์มเลี้ยงวัวโคราชวากิว ตามแนวทาง “โคราชโนมิกส์” โคราชเป็นเมืองอาหารป้อนโลก
นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้เริ่มเพาะพันธุ์เนื้อวัวโคราชวากิว เพราะเป็นเนื้ออันดับหนึ่งของญี่ปุ่นที่นำออกไปขายต่างประเทศ ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้นำพ่อพันธุ์เชื้อเนื้อวัววากิวมาจากญี่ปุ่น แล้วมาพัฒนาให้เป็นพันธุ์เนื้อวากิวของคนไทย ที่ประสบความสำเร็จด้วยเนื้อหาทางด้านวิชาการ งานวิจัย ทำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการเลี้ยงจากวัวธรรมดา มาเลี้ยงวัววากิว ทำให้มีรายได้มากขึ้น ถ้าเนื้อวัวธรรมดาตัวหนึ่งอาจจะขายได้สักสองหมื่นบาท แต่เนื้อวากิวขายได้ถึงตัวละสองแสนบาท ถือว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าได้เกือบ 10 เท่า วันนี้จึงส่งเสริมการเลี้ยงกันทั่วภาคอีสาน และที่จังหวัดนครราชสีมาด้วย ปัจจุบันมีอยู่ถึง 3 หมื่นตัว
นอกจาก มทส.จะเพาะพันธุ์ให้แล้ว ก็มีบริการสร้างโรงเชือด เพราะโรงเชือดก็มีส่วนสำคัญ ถ้าโรงเชือดไม่ได้มาตรฐาน ร้านอาหาร-โรงแรมก็จะไม่กล้าซื้อ เพราะโรงเชือดที่ได้มาตรฐานจะต้องมีการตรวจสุขภาพ ตรวจเชื้อโรคของวัวที่ส่งเข้ามาที่โรงเชือดก่อน และที่นี่เป็นโรงเชือดที่มีมาตรฐานฮาลาล มีสัตวแพทย์ ถือว่าเป็นโรงเชือดที่มาตรฐานที่สุดในประเทศไทย วันหนึ่งสามารถเชือดแล้วปรับแต่งเนื้อวากิวได้ประมาณ 35-40 ตัว อันนี้ถือว่าเป็นการสร้างอาชีพใหม่ให้กับเกษตรกร ยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกร และด้วยเทคโนโลยีของคนไทยที่เกิดจากนักวิชาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นตัวอย่างหนึ่งที่จะทำให้โคราช ภาคอีสาน เป็นเมืองผลิตอาหาร
โดยเฉพาะอาหารทางด้านปศุสัตว์ ซึ่งเรามีพื้นฐานอยู่แล้ว ต่อไปอาจจะเป็นพวกสินค้าเกษตรอย่างอื่น ข้าว อ้อย ยาง น้ำมันปาล์ม ที่สามารถนำงานวิจัยมาต่อยอดให้เกิดผลผลิตการเกษตรแปรรูปขั้นสูงขึ้นมา เพื่อให้มีมูลค่า มีราคามากขึ้น จะทำให้เกิดกระบวนการของอุตสาหกรรม เกิดมูลค่าเพิ่ม เกิด SME เกิดการจ้างงาน ดังนั้น ตนคิดว่าอีสานมีแผ่นดินกว้างใหญ่ วันนี้พื้นฐานการเกษตรของประเทศก็เข้มแข็ง โลกก็ต้องการอาหาร เราสามารถที่จะทำให้ภาคอีสานเป็นเมืองผลิตอาหารแพงๆดีๆ ทำเป็น “ฟู้ดวันเล่ย์” ที่มีความหลากหลายของอาหารให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะใช้พื้นฐานทางการเกษตรในการผลิตอาหารป้อนโลก
ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สามารถจะสร้างสตาร์ทอัพจากนักศึกษา นักธุรกิจ มาทำฟาร์มเนื้อวัวโคราชวากิว หรือนำชิ้นเนื้อโคราชวากิวมาต่อยอด ทำเป็นภัตตาคาร ร้านอาหาร ขายสเต็กดีๆ ก็จะมีรายได้ให้กับนักศึกษา แล้วเติบโตขยายอาชีพต่อไป ก็จะเป็นเสน่ห์ว่า “โคราชเป็นเมืองอาหาร” มีร้านอาหารระบบอินเตอร์ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และส่งเสริมธุรกิจหลายๆ อย่างไปในตัว สอดรับกับวิสัยทัศน์และแนวคิดของพลเอกชาติชาย ชุณหะวัน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มองไกลและมองได้อย่างถูกต้องที่ให้ตั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ซึ่งวันนี้สามารถพิสูจน์ให้สังคมได้เห็นแล้วว่า “คุณภาพของบัณฑิต และผลงานทางวิชาการเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศสูงมาก และยังให้คนโคราชได้ต่อยอดศาสตร์แห่งการเป็นเมืองพัฒนาอุตสาหกรรมครบวงจร เนื้อโคราชวากิว อีกด้วย” นายสุวัจน์ฯ กล่าว.
โดย…ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา