Friday, 18 July 2025 - 8 : 50 am
68.06.09-ส่งเว็บremark-320x100px_CREai
OIC_001
data-no-lazy="1"
68.06.09-ส่งเว็บremark-320x100px_CREai
OIC_001

มท.1 Kick off ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกชุมชนปลอดยาเสพติด

“ภูมิธรรม” Kick off ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด พร้อมเป็นประธานสักขีพยาน “ปฏิญญารวมพลังยับยั้งปัญหายาเสพติด” ระหว่างผู้ว่าฯ – ผู้บังคับการตำรวจ 76 จังหวัด มุ่งขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

วันนี้ (17 ก.ค. 68) เวลา 13.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาลและ Kick off ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก กรุงเทพฯ โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส.​ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม และเป็นการถ่ายทอดการประชุมผ่านระบบวิดีโอทางไกลไปยังศาลากลางจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดและที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอ โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมรับฟังทั่วประเทศ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันเราเผชิญกับอาชญากรรมจากภายนอกประเทศ ที่เล็ดลอดเข้าสู่ประเทศไทยผ่านตามแนวชายแดน ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย และที่สำคัญมีการ “ลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศไทย” จนกลายเป็นภัยร้ายแรงที่บ่อนทำลายประเทศไทยมาอย่างยาวนาน แม้นว่าไทยเราจะไม่ใช่ต้นกำเนิดของยาเสพติด แต่เราก็ได้รับผลกระทบจากการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจนเข้าไปแพร่ระบาดในหมู่บ้าน/ชุมชน สร้างปัญหาที่ทำลายชีวิตของคน ทำลายความสงบสุขและความปลอดภัยของชุมชน ทำลายโอกาสดี ๆ ของคนรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปไปรู้จบ

“ปัญหายาเสพติด” จึงเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลต้องการกำจัดให้หมดไปจากผืนแผ่นดินไทย และที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินงานอย่างเข้มข้นจริงจังและต่อเนื่องโดยมาตรการและปฏิบัติการต่าง ๆ ทั้งการกำหนดแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่มีการกำกับติดตามประเมินผลผ่านตัวชี้วัดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการ Seal Stop Safe ที่ได้เริ่มเมื่อ 1 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ 14 จังหวัด 51 อำเภอชายแดน 76 สถานีตำรวจ ซึ่งได้เห็นความสำเร็จของการปฏิบัติงานอยู่เสมอและต้องขอชื่นชมและขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน และยังมีการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต้นแบบ “ธวัชบุรีโมเดล” และ “ท่าวังผาโมเดล” โดยขยายผลไปยังพื้นที่ 10 จังหวัดนำร่อง แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องการขยายผลให้การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นไปอย่างเข้มข้นและครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานครและ 76 จังหวัด 878 อำเภอที่ต้องอาศัยความร่วมมือของข้าราชการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการเข้าถึงพี่น้องประชาชน สามารถขจัดปัญหายาเสพติดไปได้อย่างแท้จริง

จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายอำเภอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจ หัวหน้าสถานีตำรวจ ได้นำนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดขับเคลื่อนให้ครบทุกมิติ ทั้งการป้องกันไม่ให้มียาเสพติดเข้าสู่ประเทศ การปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน ตลอดจนการฟื้นฟูคนดีกลับสู่สังคม ทำให้ประชาชนรับรู้เข้าใจและสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของรัฐบาลและพวกเราทุกคน ยกระดับให้เป็นวาระของจังหวัด อำเภอ และหมู่บ้าน/ชุมชนทั่วประเทศ ผ่านปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด โดยมีเป้าหมายและตั้งตัวชี้วัดว่า “ภายใน 3 เดือนนี้” หมู่บ้าน/ชุมชนที่มีปัญหายาเสพติดจะต้องเริ่มแก้ไขปัญหา วางกลไกของชุมชน และประกาศตนเป็นหมู่บ้าน/ชุมชนปลอดยาเสพติดที่จะต้องไม่มีทั้งผู้ค้าและผู้เสพต่อไป” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม ได้มอบนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้แก่ 1) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจับมือร่วมกันทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ด้วยการบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะในเรื่องการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูล การวางกำลังและการจัดกำลังเพื่อสนับสนุนภารกิจของกันและกัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องเป็น CEO ในการจัดการปัญหายาเสพติดบนข้อมูลสถานการณ์จริงตามบริบทของพื้นที่ที่แตกต่างกัน ต้องรู้สภาพปัญหาและเงื่อนไขความท้าทายที่เกิดขึ้นในจังหวัดของตน พร้อมนำปัญหามาแปลงเป็นแนวทางแก้ไขที่ตอบโจทย์ของพื้นที่

พร้อมทบทวนเป้าหมายตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกระยะ เพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด ใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยที่มีความเข้าใจและเข้าถึงพี่น้องประชาชนมาดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน โดยการมอบหมายภารกิจให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานเรื่องยาเสพติด ทั้งการสกัดกั้น เฝ้าระวัง ตรวจตรา และ X-Ray ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่สถานบันเทิงหากพบผู้เสพยาเสพติด ให้นำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา นอกจากนี้ ยังต้องมีการนำกลไกฝ่ายปกครอง มาใช้หาข่าวในพื้นที่ด้วย เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ค้ายาเสพติดและดำเนินการตามกฎหมายและต่อยอดไปสู่การทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดทั้งระบบต่อไปโดยเฉพาะผู้ค้ารายใหญ่ทั้งหลาย

2) ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด ให้ยึดหลัก “ผู้เสพคือผู้ป่วย” ที่ต้องได้รับการรักษา ตามรูปแบบและกลุ่มของผู้ป่วย โดยจังหวัดต้องให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม เพื่อให้ผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัดได้มาฟื้นฟูสมรรถนะและศักยภาพให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อนจะกลับเข้าไปใช้ชีวิตในสังคมโดยไม่กลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำอีก ซึ่งสามารถนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เป็นอีกส่วนที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนการดำเนินงานใน

3) อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเกิดผลสัมฤทธิ์ คือ “พลังของพี่น้องประชาชน” โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกคนนับเป็นผู้นำของหมู่บ้าน/ชุมชนซึ่งอาจมีการกำหนดกติการ่วมหรือ “ธรรมนูญหมู่บ้าน” เรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ทุกคนรับทราบและปฏิบัติร่วมกัน พร้อมทั้งสนธิกำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่มีจำนวนมากกว่า 670,000 คนทั่วประเทศซึ่งล้วนเป็นผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านที่เป็นพลังสำคัญและเป็นหัวใจในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ต้องสร้างพลังมวลชนในการ X-Ray ทุกพื้นที่ และส่งเสริมให้มีขบวนการตาสับปะรด ช่วยสอดส่องดูแลและให้ข่าวกับภาครัฐ เพื่อทำให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากทุกพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน ไม่ให้มีผู้ค้ายาเสพติดได้เล็ดลอดในชุมชน และเฝ้าระวังไม่ให้ผู้เสพยาเสพติดหรือมีอาการคุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติด ถ้าพบก็ให้ส่งเข้ากระบวนการบำบัดรักษาฟื้นฟูตามแนวทาง ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้จะทำให้ชุมชนปลอดภัย ไม่มีผู้เสพยาเสพติดรายใหม่เพิ่มเติม และป้องกันไม่ให้ยาเสพติดกลับเข้ามาระบาดในพื้นที่ต่อไป

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีความตั้งใจในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และการแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วย “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” โดยให้ทุกจังหวัด ทุกหน่วยงานขับเคลื่อนการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการนำกองทุนแม่ของแผ่นดินมาช่วยสนับสนุนในการเสริมสร้างพลังแห่งความดีของบุคคล พลังแห่งความดีของผู้คนที่ช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดของหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เรื่องในโอกาสมงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 และ 12 สิงหาคม 2568 เดือนอันเป็นมิ่งมงคลของพระพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า

และอีกหนึ่งรูปแบบ คือ การดำเนินงาน “จังหวัดสีขาวปลอดยาเสพติด” เช่นธวัชบุรีโมเดล จ.ร้อยเอ็ด และท่าวังผาโมเดล จ.น่าน โดยดำเนินการร่วมกันระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ศุลกากร กอ.รมน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน และให้จังหวัดที่อยู่บริเวณจังหวัดชายแดนอื่นนอกเหนือจาก 14 จังหวัด Seal Stop Safe นำรูปแบบการดำเนินงานดังกล่าวไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาและบริบทของพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทยเป็นแหล่งแพร่ระบาดของยาเสพติด และยับยั้งไม่ให้ประเทศของเราเป็นทางผ่านของยาเสพติดไปสู่ประเทศที่ 3

“ในการเดินทางไปหมู่บ้านหลายครั้ง ตนพบกับพี่น้องประชาชนที่ประสบความทุกข์ในเรื่องยาเสพติด ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เขากังวลใจ คือ ตกลงรัฐบาลเอาจริงหรือไม่ ถ้ารัฐบาลเอาจริงเขาก็พร้อมที่จะร่วม ซึ่งปัญหาที่ผ่านมานอกจากปัญหาอาชญากรที่สร้างอาชญากรรมแล้ว ยังมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหลายส่วน หลายระดับ ซึ่งทำให้ปัญหายาเสพติดจึงไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ตอนนี้เราได้เห็นแล้วว่าภัยยาเสพติดมันกระทบกับคนไทยรุนแรงมากแค่ไหน และทุกข์ของพี่น้องประชาชนที่เห็นวันนี้ มันรุนแรงมากจนเป็นที่กล่าวถึงทุกแห่ง อยากให้เราคิดถึงครอบครัวเราว่า ถ้ามีลูกหลานเราติดยาเสพติดและทำตัวติดยาจนกระทั่งกลายเป็นอาชญากรขึ้นมา เราได้เห็นแล้วภาพที่พ่อยิงแม่ ยิงลูก ลูกยิงพ่อยิงแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดในสังคมไทย มันเกิดขึ้นเพราะปัญหาเพียงแค่ว่า อยากได้เงิน อยากได้สตางค์เอาไปซื้อยาเสพติดมาเสพ”

วันนี้เราเดินเข้าหมู่บ้านแน่นอนปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาพื้นฐาน แต่สิ่งที่เมื่อพูดแล้วมันเกิดความสะเทือนใจเขา คือ ลูกหลานเขาติดยาเสพติดและเขารู้หมดว่าในหมู่บ้านใครค้า ใครขาย ใครสนับสนุน วันนี้พวกเราต้องร่วมมือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ตนไม่เชื่อว่าเราแก้ไม่ได้ ปัญหาคือ เราเอาจริงหรือเปล่า เรากล้าที่จะทำอย่างจริงจังหรือเปล่า วันนี้ได้เวลาแล้วที่จะต้องเอาจริงเอาจัง อย่างน้อยในช่วง 3 เดือนนี้ จะแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และ “ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด” นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ต้องร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การทำงานครอบคลุมทุกมิติ ทั้งในมิติของพื้นที่และมิติของการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงนายอำเภอและผู้กำกับการหัวหน้าสถานีตำรวจต้องร่วมการทำงานอย่างใกล้ชิดในระดับอำเภอ รวมทั้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและสาธารณสุขอำเภอด้วยที่เรามีผู้ป่วยจากการเป็นผู้เสพยาจะต้องบำบัดรักษา ฟื้นฟู

โดยมี หน่วยทหาร ตำรวจ และกระทรวงศึกษาธิการมาช่วยกันฟื้นฟูสมรรถนะ สมรรถภาพ โดย ป.ป.ส. สนับสนุนให้การดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อคืนคนดีสู่สังคม ซึ่ง “ปฏิญญารวมพลังยับยั้งปัญหายาเสพติด” ในวันนี้ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจะแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ของตนเองให้ประสบความสำเร็จ โดยยึดหลักการทำงานร่วมกันให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อบรรลุผลความสำเร็จตามพี่น้องประชาชนคาดหวัง ช่วยกันสร้างความดี ทำให้ยาเสพติดหมดไปจากสังคมไทยอย่างถาวรและยั่งยืน

© 2021 thairemark.com