กลุ่มผู้เสียหายกว่า 100 รายร้องดีเอสไอ ถูก ดร.ดังระดับประเทศ หลอกเทรดเงิน Forex สูญเงินกว่า 1 พันล้าน แฉเล่ห์ใช้หลักธรรมะอริยสัจ 4 ในการสอนเทรดเงินและทำโปรไฟล์สร้างความน่าเชื่อถือทำให้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาตัวแทนผู้เสียหายจำนวนกว่า 100 ราย จากทั้งหมด 5,000 รายแจ้งความกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ถูกโบรกเกอร์ชักชวนลงทุนเทรด Forex เสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท (จากมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 5,000 ล้านบาท) ไม่สามารถถอนเงินออกได้ อีกทั้งผู้เสียหายยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงคดี เนื่องจากผู้ก่อตั้งบริษัทเทรดเงินดังกล่าว ได้มีการถ่ายภาพร่วมกับบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และรัฐมนตรีพรรคการเมืองขนาดใหญ่ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน จึงรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ เพื่อพิจารณาตรวจสอบ โดยมี น.ส.อรุณศรี วิชชาวุธ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.อรรคริน ลัทธศักดิ์ศิริ รอง ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และนายเจตนา เหมมุน เลขานุการคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง
น.ส.อรุณศรี วิชชาวุธ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ กล่าวว่า สำหรับกรณีแชร์ลูกโซ่ Worldclass Financial Interlligence (WCF) ที่ผู้เสียหายได้ไปร่วมลงทุนนั้น คดีนี้ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว เป็นคดีเลขที่ 84/2566 เนื่องจากมูลค่าความเสียหายเกินกว่า 100 ล้านบาท และจำนวนผู้เสียกว่า 100 คน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ ดีเอสไอจะมีการเปิดระบบผ่านทางเว็บไซต์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ผู้เสียหายที่เหลือสามารถลงทะเบียน และรับการนัดหมายเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานและมอบเอกสารพยานหลักฐานต่อไป
ด้าน พ.ต.อรรคริน ลัทธศักดิ์ศิริ รอง ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวนี้ มีมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นแล้ว 100 ล้านบาท ดังนั้นจึงอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ ส่วนผู้เสียหายท่านใดที่ยังไม่ได้มีการลงทะเบียน ขอให้ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ เว็บไซต์ดีเอสไอจะมีการเปิดให้ผู้เสียหายที่เหลือได้ลงทะเบียน และขอความกรุณาให้ผู้เสียหายเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หากได้รับการนัดหมายเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ผู้เสียหายรายใดก็ตามที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ขอให้ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะดีเอสไอจะมีศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ซึ่งจะมีทั้งหมด 10 ศูนย์ โดยผู้เสียหายสามารถเดินทางไปยังศูนย์ดังกล่าวเหล่านี้ได้ เพื่อลงทะเบียนและมอบเอกสารพยานหลักฐาน
สำหรับพฤติการณ์การชักชวนของกลุ่มบุคคลให้มีการร่วมลงทุนนั้น พ.ต.อรรคริน กล่าวว่า เป็นการลงทุนเกี่ยวกับการชักชวนให้เทรดสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งถ้าผู้เสียหายรายใดเทรดด้วยตัวเอง และไม่ได้มีการชักชวนบุคคลอื่นให้ไปร่วมเทรดด้วย ตรงนี้ก็จะไม่เข้าข่าย อย่างไรก็ตามการกระทำในลักษณะนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย ดังนั้นประชาชนพี่น้องท่านใดที่ถูกชักชวน ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ว่า บริษัทดังกล่าวได้รับอนุญาตในการประกอบธุรกิจประเภทนี้หรือไม่ หรือตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชันไลน์ @checkdidsi (Line official เฉพาะกิจ แชร์ลูกโซ่) ป้องกันการตกเป็นเหยื่อ จากการถูกหลอก ถูกชักชวนลงทุน ของมิจฉาชีพแชร์ลูกโซ่ อีกทั้งการลงทุนในลักษณะการเทรดสกุลเงินตราต่างประเทศ ยังคงมีเฉพาะธนาคารพาณิชย์กับบริษัทหลักทรัพย์เท่านั้น
เมื่อถามว่า ผู้เสียหายค่อนข้างมีความกังวลว่า โบรกเกอร์มีความสนิทสนมกับคนใหญ่คนโตในประเทศไทย ดีเอสไอจะให้ความมั่นใจได้อย่างไรบ้าง พ.ต.อรรคริน กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจไม่ต้องกังวลในส่วนนี้ เพราะเราทำคดีในลักษณะแชร์ลูกโซ่มาหลายคดี และจากผลงานที่ผ่านมาก็พบว่าพฤติการณ์ไม่แตกต่างกัน และไม่มีใครสามารถแทรกแซงการทำคดีของดีเอสไอได้ เราทำคดีด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและให้ความเป็นธรรม ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวนหลังจากนี้คงต้องเริ่มตั้งแต่การรับเป็นคดีพิเศษ และต้องขอเวลาให้คณะพนักงานสอบสวนทำงาน เพื่อรวบรวมพยานเอกสารต่างๆ และนัดหมายผู้เสียหายเพื่อเข้าให้ปากคำรายละเอียดการลงทุนเพิ่มเติมต่อไป เชื่อว่ายังคงมีจำนวนผู้เสียหายอีกมากที่อยู่ระหว่างการรอลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมในส่วนของเอกสารต่างๆ ผู้เสียหายยังไม่จำเป็นต้องรีบส่งมาทางไปรษณีย์มายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้ท่านดำเนินการลงทะเบียนนัดหมายกับพนักงานให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงนำมาพร้อมกันในวันเข้าให้ปากคำ
ขณะที่ นายเอ (นามสมมติ) ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า เจ้าของบริษัทเป็น ดร.คนดังระดับประเทศ มีการใช้หลักธรรมะในการสอนเทรดเงินและมีการทำโปรไฟล์สร้างความน่าเชื่อถือ มีการนำเอาอริยสัจ 4 มาเป็นหลักแนวทางในการเทรดเงิน ซึ่งจะแตกต่างจากดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงก่อนหน้านี้ ที่จะใช้ความมีชื่อเสียงในสังคมมาชักชวนให้ประชาชนร่วมลงทุน ทั้งยังอ้างว่าตัวเองมีเครื่องมือที่ฉลาดหลักแหลมที่สุดในโลก สามารถเก็งอัตราค่าเงินสกุลหลักๆ ของโลกได้ โดยเฉพาะในช่วงปี 2564 เป็นช่วงที่โควิด-19 ระบาด หลายคนตกงานและอยากมีเงินจึงได้ไปเจอกับชายคนดังกล่าว เขาเปรียบเสมือนเป็นพ่อพระมาโปรด คาดหวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งทำให้ทุกคนมีรายได้จุนเจือครอบครัว บางคนขายบ้าน บางคนนำเอาโฉนดที่ดินไปจำนอง เพื่อนำเงินที่ได้มาร่วมลงทุนในพอร์ตหุ้นดังกล่าว แต่สุดท้ายเว็บไซต์ถูกปิดตัวลงกระดานเทรดเงินถูกปิดตัวลง ทุกคนลำบาก บางคนอยากฆ่าตัวตาย ล่าสุดภาพที่ปรากฏที่ได้เห็น คือ ดร.คนดังคนนี้ ยังคงมีชีวิตปกติสุข เพราะมีการไปนั่งร่วมรับประทานอาหารกับรัฐมนตรีคนดังของพรรคการเมืองขนาดใหญ่พรรคหนึ่ง ตนจึงขอฝากถามไปยังพรรคขนาดใหญ่ดังกล่าวว่า มีส่วนรู้เห็นกับ ดร.รายนี้หรือไม่ และช่วยออกมาชี้แจงว่าทรัพย์สินที่พี่น้องประชาชนเสียหายไปกว่า 10,000 ล้านบาท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวพรรคหรือคนในพรรค จึงขอให้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วย และตนยังต้องการให้ดีเอสไอติดตามทรัพย์สินที่ถูกซุกซ่อนไว้ ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม ขอให้ติดตามเอากลับคืนมาชดเชยให้กับผู้เสียหายด้วย
สำหรับพฤติการณ์การชักชวนที่ผู้เสียหายประสบนั้น นายเอ กล่าวว่า ประชาชนหลายคนที่มาร่วมลงทุน ได้มีการดูผลประกอบการของบริษัทซึ่งมีอัตราอยู่ที่ 6-10% ต่อเดือน แต่ไม่มีการกำหนดตัวเลขที่แน่นอนตายตัว แต่แน่นอนว่าการลงทุนจะได้ผลกำไร เพราะผู้ชักชวนได้มีการโชว์เป็นตัวเลขสร้างความเชื่อมั่น และยังมีการใช้ทริกกลยุทธ์ที่ให้คนใกล้ตัวเป็นผู้ชักชวนแทน ซึ่งคนชวนจะได้ค่าชักชวน หรือที่เรียกว่า Introducing Broker โดยตนเป็นผู้ร่วมลงทุนเพียง 1 พอร์ตเท่านั้นด้วยเงิน 300,000 กว่าบาท แต่ไม่ได้มีการไปชักชวนบุคคลอื่นเพิ่มเติม ซึ่ง ดร.คนดังกล่าวจะมีการสอนให้ผู้ร่วมลงทุนแต่ละคน ติดตั้งแดชบอร์ดบนโน้ตบุ๊กของตัวเอง เพื่อทำการเทรดเงินบนกระดานเทรด ที่ผ่านมาตนได้เงินปันผลมา 3 ครั้ง ครั้งละ 30,000-40,000 บาท แล้วก็ได้ร่วมลงทุนอีกครั้งในช่วงกลางปี 2565 ลงไปอีก 360,000 บาท แล้วก็ได้รับปันผลเช่นเดิม จึงทำให้มีความมั่นใจไปอีกว่า บริษัทดังกล่าวไม่โกง ทำให้ผู้ร่วมลงทุนรายอื่นๆ ได้มีการไปชักชวนให้บุคคลใกล้ชิดของตัวเองมาร่วมลงทุนด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เสียหายมักจะเป็นบุคลากรคุณครูและอาจารย์ ซึ่งมีความมั่นคงเกี่ยวกับทางด้านการเงินที่สามารถกู้ยืมเงินจากธนาคารมาลงทุนได้ และตนทราบมาว่าสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้น เมื่อนักลงทุนรายใดมีการเปิดพอร์ตลงทุนไปสักระยะหนึ่งก็จะมีการจัดอบรม เพื่อให้กลวิธีในการหาคนมาเป็นลูกทีม ซึ่งจะได้ค่าคอมมิชชั่น
“อย่างแม่ทีมบางรายที่ตนรับทราบมา มีลูกทีมกว่า 160 คน แต่เมื่อกระดานเทรดเงินถูกปิดตัวลง ไม่มีการจ่ายเงินปันผล ไม่สามารถติดต่อโบรกเกอร์ได้ ผู้ร่วมลงทุนหลายหลายได้รับความเสียหาย และสูญเงินรวมกันเป็นมูลค่ามหาศาล จึงขอให้ดีเอสไอช่วยติดตามผู้กระทำความผิดเหล่านี้ มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” นายเอ กล่าว
