จากเหตุการณ์ หนุ่มคนไทยในอิสราเอลถูกกองกำลังติดอาวุธฮามาสบุกแคมป์คนงาน ลากตัวหนึ่งในคนงานไทย คือนายเคน หรือ สมควร พันสะอาด ชาวนครพนมขณะกำลังกินข้าวมื้อเย็นอยู่ในที่พักออกไปแล้วยิงจนเสียชีวิต ส่วนเพื่อนคนงานที่เหลือต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปคนละทิศละทาง
นางสาวรุ่งทิวา(บ๋อม) เรืองฤทธิ์ อายุ 31ปี ภรรยานายสมควร(เคน) พันสะอาด อายุ 39 ปี อยู่บ้านที่ 49 หมู่ที่ 6 บ้านดงยอ ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้อยู่กินกับนายเคน สามีมา กว่า 4 ปี แต่ด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อโควิค 19 ทำให้ครอบครัวมีหนี้สินจำนวนมาก สามีตัดสินใจสมัครไปทำงานประเทศอิสราเอล เป็นคนงานเก็บผลผลิตในสวนกล้วย และทุกๆวันตนและสามีจะหาจังหวะว่างตรงกันโทรคุยเพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเพื่อนของสามี โทรติดต่อกลับมาแจ้งว่า นายเคนได้ถูกกลุ่มก่อการร้ายบุกเข้ามาในบริเวณแค็มป์ที่พักและได้จับตัวนายเคนลากไปกับพื้นออกไป จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของนายเคนได้เพียงคำเดียว ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น โดยที่กลุ่มเพื่อนๆที่ร่วมวงรับประทานอาหารด้วยกัน ต่างก็พยายามหนีเอาชีวิตรอดออกจากบริเวณดังกล่าว หนีไปยังห้องหลบภัย
ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนออกมาได้ เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายจึงได้ทราบว่า นายเคน ได้ถูกยิงเสียชีวิตจากกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวแล้ว
นายสิทธิชัย พรมน้อย ลุงบุน อายุ 64 ปี กล่าวถึงนายเคน หลานเขยว่า เสียดายต่อการเสียชีวิตของหลานเขยคนนี้ เขาเป็นคนที่อัธยาศัยดีต่อครอบครัวและเพื่อนบ้าน พยายามทำงานหนักเอาเบาสู้ต้องการให้ชีวิตความเป็นที่ดีขึ้น แต่ภาระหนี้สินที่สะสมมาตั้งช่วงแพร่ระบาดโควิด 19 และปัญหาการกินอยู่ทำให้ต้องตัดสินใจกู้เงินเพื่อเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศ จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ขึ้น
ทั้งนี้ในหมู่บ้านเดียวกันนี้ยังมีชาวบ้านอีกไม่น้อยที่เดินทางไปทำงานยังประเทศอิสราเอล ก็อดเป็นห่วงถึงความปลอดภัยไม่ได้ จึงอยากขอวิงวอนทางภาครัฐช่วยเหลือให้ความปลอดภัยต่อชีวิตคนงานไทยที่เหลือด้วย หากจะให้เดินทางกลับมาเพื่อรักษาชีวิตในขณะนี้ แต่ก็อดคิดถึงหนี้สินที่กู้ยืมมาเพื่อการเดินทางไปทำงานหนี้สินภายในครอบครัวเดิมก่อนหน้านี้
สำหรับแนวทางให้ความช่วยเหลือเยียวยา นางสาวรุ่งทิวา(บ๋อม) แจ้งว่าขณะนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ของ สำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนมเดินทางมาปลอบขวัญและให้กำลังใจพร้อมทั้งแจ้งถึงสิทธิประโยชน์จากการสูญเสียสามี จากนี้ตนก็จะรอฟังคืบหน้าถึงการนำร่างสามีกลับมาเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
