รัฐบาลไทย ตั้งโต๊ะแถลงเสียใจสุดซึ้งเหตุวัยรุ่นกราดยิง ตั้งศูนย์บัญชาการสถานการณ์ ยันเยียวยาผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บเต็มที่ เผย 1-2ราย ดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมไปเยี่ยมสถานเอกอัครทูตที่ได้รับผลกระทบและผู้บาดเจ็บ ตร.ระบุดัดแปลง’แบลงค์กัน’ก่อเหตุ
เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2566 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายอารัญ บุญชัย ปลัดการท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุมหารือเพื่อพัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยว
นายจักรพงษ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่มีชาวต่างชาติเสียชีวิตในห้างสรรพสินค้า เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยนายกฯ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์พูดคุยกับเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆที่พลเมืองได้รับผลกระทบแล้ว ขณะเดียวกันทางกระทรวงฯได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือในอนาคต อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ
“เราจะต้องช่วยกันคิดและดูแลอย่างจริงจังทั้งสุขภาพจิตของคนไทย การควบคุมการซื้ออาวุธปืน ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าวจบนี้มีแผนจะเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ ไปเยี่ยมสถานเอกอัครทูตที่ได้รับผลกระทบ และเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย” นายจักรพงษ์ กล่าว
ขณะที่น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า ในนามรัฐบาลไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกท่านกับเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นในประเทศ ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดไม่ว่าจะที่ใดก็ตามในโลกนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 2 ราย รายหนึ่งเป็นชาวจีน และอีกรายหนึ่งเป็นชาวเมียนมาร์ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย คนไทย3ราย คนจีน และคนลาว ล่าสุด ผู้บาดเจ็บอยู่ในระยะปลอดภัยส่วนหนึ่ง และอีก1-2 คนดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ทางรัฐบาลไทยจะดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด รวมถึงครอบครัวและญาติของผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตที่จะเดินทางมายังไทยด้วย
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงรับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้เป็นพระบรมราชานุเคราะห์ นอกจากนี้ เราจะตั้งศูนย์บัญชาการสถานการณ์(Situation Command Center) ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อจะได้สื่อสารกับทุกท่าน ทุกภาคส่วนเพื่ออัพเดทสถานการณ์ต่างๆต่อไป” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค. เวลา 16.20 น. ผู้ก่อเหตุเข้าไปเดินห้าง และใช้อาวุธปืนประดิษฐ์เองจากปืนแบลงค์กัน (BLANK GUN)ให้กลายเป็นปืนที่สามารถใช้กระสุนจริงได้ ก่อเหตุที่บริเวณชั้นM จากนั้นได้เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 และ 3 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปควบคุมจนเหตุการณ์ยุติลงได้ จากการประเมินเหตุการณ์เข้าลักษณะคลุ้งคลั่งกราดยิง (Active Shooter) ซึ่งเมื่อเดือนต.ค. 65 สตช. และห้างเคยซักซ้อมรับมือกับสถานการณ์ลักษณะนี้ไว้แล้ว ถือว่าควบคุมสถานการณ์ได้ดี และยุติเหตุการณ์ได้เร็ว
ส่วน น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ประชุมแล้ว เราจะดำเนินการใน 3 ส่วน ดังนี้ 1.มาตรการด้านความปลอดภัย ยกระดับพื้นที่ 2.มาตรการเยียวยา ฟื้นฟูจิตใจ อำนวยความสะดวกแก่ผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต และ 3.สื่อสารภาพลักษณ์สร้างความมั่นใจ ทั้งระยะสั้น กลาง ยาว อย่างไรก็ตาม เราได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งทางเอกอัครราชทูตจีนได้ชื่นชมเรา ส่วนเมียนมาร์ได้ติดต่อเรียบร้อย
เมื่อถามถึงมาตรฐานการครอบครองปืน พล.ต.ท.สำราญ ชี้แจงว่า ปืนแบลงค์กันเป็นปืนพลาสติก แต่ได้นำมาเปลี่ยนลำกล้องดัดแปลงให้ใช้ได้ จากนี้เราจะเพิ่มมาตรการในการควบคุม รวมถึงกฎหมายควบคุมอาวุธปืนแบลงค์กันซึ่งตัวเดิมๆไม่ผิดกฎหมาย แต่เมื่อมาดัดแปลงภายหลังให้เป็นอาวุธปืนในส่วนนี้จะเพิ่มเติมมาตรการควบคุม รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมวัสดุสิ่งเทียมอาวุธปืนดังกล่าว