Sunday, 22 December 2024 - 3 : 32 pm
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

‘พีระพันธุ์’ถก กรมศุลกากร ผลักดันนโยบายเปิดนำเข้าน้ำมันเสรี ลั่นบริษัทค้าน้ำมันไม่ควรยขายกำไรสูงเกินควร

‘พีระพันธุ์’ เข้าหารือกรมศุลกากร ดึงข้อมูลต้นทุนการนำเข้าน้ำมันที่แท้จริง เพื่อหาแนวทางปรับโครงสร้างราคาให้ประชาชน ลั่นบริษัทค้าน้ำมันไม่ควรขายกำไรสูงเกินไป เผยนโยบายลดค่าไฟ จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการใช้หนี้ให้กับ กฟผ.

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2566 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าหารือกับ นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เพื่อขอข้อมูล เกี่ยวกับต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป ที่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ว่า การเดินทางมาครั้งนี้ได้มาพบอธิบดีกรมศุลกากรเพื่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูล การนำเข้า น้ำมัน จากผู้ค้าน้ำมันในต่างประเทศของผู้ประกอบการในประเทศไทย โดยต้องการทราบรายละเอียดทั้งต้นทุนราคา แหล่งที่มา รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ ของน้ำมันที่ถูกนำเข้ามาเพื่อขายในประเทศไทยเพื่อนำไปใช้ประกอบในการพิจารณา หาแนวทางปรับโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศไทยให้เหมาะสมและเป็นธรรม บริษัทผู้ประกอบการไม่มีกำไรสูงเกินไป จนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และจากการพูดคุยในวันนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากอธิบดีกรมศุลกากรรับปากจะดำเนินการ สืบค้นข้อมูล เกี่ยวกับการนำเข้าน้ำมันย้อนหลังให้นำกลับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากพลังงานไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน หรือไฟฟ้า เป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต และเป็นต้นทุนในการทำมาหากินของประชาชน ดังนั้นจึงต้องหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรจะให้ประชาชนสามารถซื้อน้ำมันได้ในราคาที่เป็นธรรม โดยบริษัทค้าน้ำมันจะต้องไม่ค้ากำไรที่สูงเกินไป แต่ควรดำเนินธุรกิจอย่างพอเหมาะพอดี และในการทำงานมีความจำเป็นต้องทราบข้อมูลรายละเอียด และหาความกระจ่าง โดยเฉพาะในเรื่องของโครงสร้างราคา ถ้าหากทำถูกต้องอยู่แล้วก็ดำเนินการต่อไป แต่หากพบว่าผิดก็ต้องรีบหาทางแก้ไข เพราะหากกระทำผิดจนทำให้ราคาน้ำมันแพง และเป็นการค้ากำไรเกินควรก็เหมือนกับการปล้นประชาชน

ทั้งนี้ เรื่องของนโยบายการจัดหาพลังงานในราคาที่เหมาะสมให้กับประชาชนเป็นเรื่องที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังได้มอบให้ตนในฐานะรมว.พลังงานดำเนินการ เป็นนโยบายที่ตรงกับนโยบายด้านพลังงานของพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็ได้ลดราคาน้ำมันให้กับประชาชนไปแล้วส่วนหนึ่ง เพราะเป็นความเดือดร้อนเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องเร่งคลายความเดือดร้อนให้กับประชาชน

“การเดินทางมาหารือกับอธิบดีกรมศุลกากรครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นในการหาความจริงเกี่ยวกับต้นทุนพลังงาน หลังจากนี้จะได้ดำเนินการเช่นเดียวกันนี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น กรมสรรพสามิต ที่ดูแลเรื่องภาษีน้ำมัน เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างบูรณาการร่วมกัน เนื่องจากที่ผ่านมาตนเห็นว่าแต่ละกระทรวงหรือแต่ละหน่วยงานทำงานแบบต่างคนต่างทำ จึงอยากให้มีการทำงานประสานกันให้มากกว่านี้ โดยมีเป้าหมายที่ประชาชนเป็นหลัก” นายพีระพันธุ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับนโยบายการเปิดนำเข้าน้ำมันเสรีที่ได้มีการพูดถึงกันนั้น ในความหมายคือ การเปิดโอกาสให้ประชาชนที่สามารถจัดหาน้ำมันได้ในราคาถูกว่า ในประเทศมาเพื่อใช้ในกิจการของตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องผ่านคนกลาง อาจจะเป็นกลุ่มขนส่ง กลุ่มแท็กซี่ ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้น้ำมันในกิจการของตัวเอง หากได้ใช้น้ำมันในราคาถูกกว่าการซื้อจากคนกลางก็จะทำให้สามารถลดต้นทุนลงได้ โดยการเปิดโอกาสดังกล่าวรัฐจะต้องอำนวยความสะดวกไม่ให้เกิดอุปสรรคในการนำเข้าเสรี เพราะตามที่ได้พูดไปแล้วคือ พลังงานเป็นเรื่องของชีวิตมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่ควรมีการผูกขาด จึงจะต้องกลับไปดูกฎหมายต่าง ๆ ของกระทรวงพลังงานว่าเป็นอย่างไร หากมีกฎหมายห้ามไว้ก็ต้องแก้กฎหมายเพื่อให้สามารถนำเข้าได้อย่างเสรี

นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงกรณีการลดราคาค่าไฟ อาจจะต้องเกี่ยวข้องกับการยืดหนี้ กฟผ.ออกไปว่า ในส่วนนี้เป็นการดำเนินการตามระยะเวลาที่เป็นขั้นตอน จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีวิธีดำเนินการใช้หนี้ให้กับ กฟผ.โดยไม่ให้กระทบกับประชาชนอยู่แล้ว ตอนนี้ตัวเองกำลังศึกษากฎหมายต่าง ๆ อย่างละเอียดว่า จะทำได้แค่ไหน เพราะตั้งเป้าว่าจะปรับปรุงโครงสร้างพลังงานทั้งหมด ให้เป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

สำหรับ แนวทางการศึกษาลดราคาเบนซิน ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มนั้น มุ่งเน้นดูแลกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันแพง มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) ศึกษากลุ่มไหนควรได้รับการช่วยเหลือ ได้รับผลกระทบในช่วงนี้อย่างไรบ้าง อีกไม่นานคงได้ข้อสรุป

© 2021 thairemark.com