Saturday, 23 November 2024 - 11 : 35 pm
kanda_002
OIC_001
data-no-lazy="1"
kanda_002
OIC_001

Adasoft โชว์ศักยภาพผู้นำด้าน Digital Solution Provider เปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำเทคโนโลยีของคนไทย

Adasoft เปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำเทคโนโลยีของคนไทย กับร้านค้าไร้พนักงานด้วยนวัตกรรม ทั้ง sKart รถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะ แบบครบจบที่เดียวด้วย AI ที่ซื้อง่ายจ่ายสะดวก, SCO Self-Check Out จ่ายเงินง่ายๆ ได้แบบไม่ต้องพึ่งแคชเชียร์ และตู้ขายสินค้าอัจฉริยะ sBOX ซื้อสินค้าง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน สแกน => หยิบ => จ่ายเงิน แค่ใช้มือถือเครื่องเดียว

คุณเสาวนีย์ แย้มคง Business Development Director บริษัท Adasoft จำกัด เปิดเผยว่า เอด้าเป็นบริษัทพัฒนาซอฟท์แวร์ โดยคนไทยและเติบโตมาเป็นปีที่ 23 และในฐานะเป็นผู้นำการให้บริการและประกาศตัวเป็น Digital Solution Provider ของคนไทย ทั้งนี้หลังการควบรวมบริษัทกับพาร์ทเนอร์แล้ว ทำให้บริษัทใหญ่ขึ้น มีพนักงานและมีศักยภาพมากขึ้น มีลูกค้าด้านซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้ดูแลมากขึ้น และเรายังเป็นผู้นำของนวัตกรรมค้าปลีก พัฒนาซอฟท์แวร์ให้กับร้านค้า ทำให้ลูกค้าภาคภูมิใจ

คุณเสาวนีย์ แย้มคง Business Development Director บริษัท Adasoft จำกัด

ทั้งนี้เราเป็นผู้นำของธุรกิจค้าปลีก นับตั้งแต่การเป็นบริษัทผู้พัฒนาระบบบริหารหน้าร้าน (Point of Sale) บนระบบปฏิบัติการ Windows เป็นรายแรกของประเทศไทย จนปัจจุบันพัฒนาเป็นระบบคลาวน์ที่รองรับได้หลากหลายอุปกรณ์ และมีระบบ AI ที่เป็นร้านค้าไร้พนักงานร้านแรกในประเทศไทย ที่พัฒนาโดยคนไทย ซึ่ง depa จะเป็นหน่วยงานที่คอยสนับสนุนบริษัท ที่พัฒนาซอฟท์แวร์แบบพวกเรา นำนวัตธรรมมาโชว์ศักยภาพให้ตลาดได้รับรู้ว่าบริษัทคนไทยเราก็มีความแข็งแรง

คุณเสาวนีย์ กล่าวว่า ดังนั้นเอด้า จึงนำตลาดแห่งโลกอนาคต – Future Market ตลาดสดวิถีใหม่ที่ทำให้การซื้อสินค้าของสดในตลาดเป็นเรื่องง่าย เป็นการ transform พ่อค้าแม่ค้าให้เป็นพ่อค้าแม่ค้าดิจิทัล โชว์นวัตกรรมช้อปปิ้งอัจฉริยะ sKart, sBox, Self-Checkout ไม่ต้องมีพนักงานหรือแคชเชียร์ การชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด โดยนำเสนอตู้ขายของอัจฉริยะ

“สมัยก่อนเรามีตู้ Vending Machine ซึ่งผู้ประกอบการจะลงทุนสูง เอด้าจึงคิดค้นเป็นตู้ขายของอัจริยะที่ไม่ต้องลงทุนมาก เป็นตู้เย็นธรรมดาทั่วๆไป ใช้เทคโนโลยีของเรา เช่นเมื่อมีการเปิดตู้อาจต้องแสดงตัวตน ว่าใครเปิด หยิบอะไรไป ระบบที่ทำไว้ก็จะได้ตัดเงินในระบบ จะเน้นว่าไม่ใช้เงินสด ก็จะไปลดเรื่องบุคลากร เป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคต เพราะปัจจุบันคนใช้เงินสดกันน้อยลง โลกก็จะเปลี่ยนไป เทคโนโลยีของเราจะช่วยให้เจ้าของร้านค้าเกิดความสะดวกสบาย”คุณเสาวนีย์ กล่าว

พร้อมระบุว่าผู้ประกอบการเจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มที่ต้องการตู้อัจริยะนี้ไปใช้ในองค์กร หรือร้านค้าทั่วไปก็สามารถนำไปใช้ได้เช่นกัน และยังกันขโมยได้อีกด้วย ซึ่งเป็นตู้ที่ลงทุนไม่มากเท่า Vending อย่างไรก็ตามคู่สัญญาซื้อขายตู้อัจฉริยะนี้เมื่อมีการนำออกสู่ตลาดอย่างจริงจังแล้ว จะได้รับความสนใจจากเจ้าของแบรนด์และผู้ประกอบการอย่างแน่นอน

สำหรับตู้อัจฉริยะ ใช้พื้นที่น้อย การลงทุนก็ไม่มาก สามารถวางในพื้นที่จำกัดหรือในร้านค้าที่ต้องการใช้ตู้นี้ก็สามารถนำไปใช้ได้โดยใช้เงินลงทุนไม่มาก ยกตัวอย่าง ตู้ Vending ราคาประมาณ 3-4 แสน แต่ตู้นี้ ราคาเหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น

ส่วนลูกค้าที่นำระบบของเอด้าไปใช้ ที่เด่นๆ เช่น ฟู้ดคอร์ท ร้านค้าปลีก ไดโซะ บิ๊กคาเมร่า ทางฟู้ดคอร์ท เราเน้นพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรม สามารถใช้บัตรพนักงาน ซื้ออาหารในโรงงานได้เลย และบัตรสามารถใช้ได้ในทุกสาขาของโรงงานนั้นๆ

เมื่อถามถึงลูกค้าที่ใช้เอด้าซอฟท์ มีจำนวนเท่าไหร่ คุณเสาวนีย์ บอกว่า ถ้าเป็นร้านค้ามีประมาณ 35,000 กว่าจุดขาย มีประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาวและกัมพูชา ที่เลือกระบบเอด้า ไปให้กับลูกค้าที่เขามีอยู่ในต่างประเทศด้วย ซึ่งระบบการดูก็ง่ายมากขึ้น ขบวนการทำงานหลังการขายก็เน้นที่จะให้ความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง ระบบการแก้ไขบางเหตุการณ์ก็สามารถใช้ระบบรีโมทได้

คุณเสาวนีย์ กล่าวในตอนท้ายว่า เอด้าซอฟท์ เป็นบริษัทของคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและพัฒนาให้ล้ำอยู่เสมอแก่ลูกค้า ควบคู่ไปกับคนไทยในงบประมาณที่จับต้องได้ เราคิดต้นทุนและความปลอดภัย เป็นหน่วยงานที่ดูแลนวัตกรรมให้กับลูกค้าทุกขนาด เราย่นย่อเพื่อใช้ต้นทุนน้อยกว่าระบบฝรั่ง โดยเอด้า พร้อมเป็นที่ปรึกษาแบบครบวงจรในทุกด้าน รองรับธุรกิจทุกขนาด

ผู้สนใจสามารถติดตามได้ที่ www.ada-soft.com สำนักงานตั้งอยู่ที่ 26/ 5-8 ซอยลาดพร้าว 83 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10240 โทรศัพท์: 02 530 1681 มีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองผ่าน

สำหรับงาน “มหกรรมแสดงเทคโนโลยีดิจิทัล HACKaTHAILAND 2023: DIGITAL INFINITY” กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) จัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 25 และวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2566 ณ ห้องเพลนารี 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วัตถุประสงค์เพื่อให้มีการนำเสนอการพัฒนา นวัตกรรม ความสามารถของเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลแพลตฟอร์มทางการค้าขาย สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการ และพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ครอบคลุมในทุกมิติในการทำเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation)

© 2021 thairemark.com