รองป๋อ “พล.ต.อ.ชินภัทร” นำกำลังบุกทลาย “แก๊งไข่หวง” 4 เจ้าพ่อยาเสพติดไต้หวัน ยัดยานรกใน “เพลารถ” หวังตบตาการตรวจสอบ แต่ถูกตำรวจกัดไม่ปล่อย แกะรอยกว่า 3 เดือน พบมีเซฟเฮาส์ลับในหมู่บ้านหรูกลางกรุง ใช้เป็นฐานบัญชาการ จนนำไปสู่การบุกเข้าตรวจค้นและจับกุม ผงะ พบแท่งเพลารถวางเกลื่อน 14 แท่ง เมื่อผ่าออกพบกัญชาและยาไอซ์ทะลักออกมาเพียบ
เมื่อวันที่ 19 ส.ค.66 ชุดสืบสวนตำรวจนครบาล ได้รับรายงานข่าวจากกลุ่มไต้หวันสักลายว่ามีแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่จากไต้หวัน หนีคดีเข้ามากบดานในประเทศไทย โดยเช่าบ้านหรูกลางกรุง ย่านลาดกระบัง เป็นแหล่งพักยาเสพติดและกระจายยาเสพติดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. จึงสั่งให้การให้เฝ้าติดตามเพื่อขยายผลจับกุม จนพบว่าผู้ต้องหาเป็นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ “4 ราชายาเสพติดไต้หวัน” ชื่อแก๊ง “หวงไข่” มีประวัติถูกออกหมายจับคดียาเสพติดที่ไต้หวัน เพราะมีการลอบนำเข้าไอซ์จำนวนมากจากสหรัฐอเมริกา …. เข้ามาจำหน่ายในไต้หวัน เมื่อถูกออกหมายจับได้หนีกบดานมาที่ประเทศไทย
ชุดสืบสวนนำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. แกะรอยจนพบกลุ่มผู้ต้องหาจึงนำหมายค้นเข้าตรวจสอบ ผู้ต้องหามีท่าทีมีพิรุธ จึงสั่งตรวจสอบแท่งเพลา 17 แท่งที่เตรียมส่งออก พบภายในบรรจุยาเสพติดไว้จำนวนมาก / จากนั้นได้ขยายผลไปยังบ้านหรูอีกหลังที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นรังของแก๊งหวงไข่ ใช้เป็นฐานผลิตยาแฮปปี้วอเตอร์ และเป็นแหล่งปาร์ตีมั่วยา สามารถยึดของกลางยาไอซ์, เคตามีน, ไฟว์ไฟว์, แฮปปีวอเตอร์พร้อมเครื่องผลิต พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 5 คน ที่พยามวิ่งทำลายหลักฐานขณะตำรวจเข้าตรวยค้นจับกุมด้วย
ในชั้นจับกุม Mr.Chen You Ning หัวหน้าขบวนการแก๊งไข่หวง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “เมื่อ 7 เดือนก่อน ตนได้ถูกตำรวจไต้หวันจับกุมที่ประเทศไต้หวันเป็นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติแต่ได้จ้างทนายสู้คดีและประกันตัวออกมา ก่อนจะหนีออกนอกประเทศไต้หวันด้วยการแอบขึ้นเรือสินค้าเป็นเวลากว่า 15 วัน
จนถึงประเทศกัมพูชาจากนั้นจึงค่อยเดินทางเข้ามาตั้งฐานทัพใหมในประเทศไทย จนทางการไต้หวันได้ออกหมายจับและตามล่าตน
โดยปัจจุบันตนมาตั้งฐานทัพที่ประเทศไทยและอยู่ระหว่างค้นหาวิธีการที่จะส่งออกยาเสพติดไปยังประเทศไต้หวันโดยมีผู้ร่วมขบวนการชื่อว่า “เสี่ยวผ้าง” ซึ่งอยู่ในประเทศไต้หวันและคอยรอรับยาเสพติดจากตนที่ส่งไปจากประเทศไทยลักลอบขนส่งยาบ้าและเฮโรอินโดยทำการผ่ายัดลงไปในเพลารถและเชื่อมเพื่อปกปิดทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้
จึงทดลองนำมาใช้โดยตนนั้นได้ขับรถไปซื้อเพลารถที่จังหวัดชลบุรี และใช้ยาเสพติดที่หามานั้นซื้อมาจากเพื่อนชาวไต้หวัน จำนวน 1 กก. ในราคา 230,000 บาท และซื้อกัญชา มาจากร้านค้าทั่วไปใน กรุงเทพฯ จำนวน 40 กก. ในราคา 70,000 บาท โดยจะชำระเงินกันผ่านช่องทางแพลตฟอร์มCryptocurrency สกุลเงิน usct หลายแอพพลิเคชั่น”
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า “คนร้ายกลุ่มนี้เรียกได้ว่าเป็นสมาชิกแก็งขนส่งยาเสพติดข้ามแดนรายใหญ่ ที่ทางการประเทศไต้หวันต้องการตัว จากการขยายผลหัวขบวนการรายนี้ถูกตามล่า จากทางการไต้หวัน จึงหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติเพื่อกบดานและใช้ประเทศไทยเป็นฐานสร้างเครือช่ายในการขนส่งยาเสพติดกลับไปยังประเทศ ล่าสุดแก๊งนี้กำลังทดลองเพื่อส่งออกยาไฮซ์แต่ทำไม่สำเร็จถูกจับกุมเสียก่อน
