Monday, 30 December 2024 - 12 : 11 pm
kanda_002
data-no-lazy="1"
kanda_002

พลิกไร่มันปลูก’อินทผลัม-อะโวคาโด’ทำเงินล้าน

ปัจจุบัน “อินทผลัม” กลายเป็นพืชเศรษฐกิจความหวังใหม่ของเกษตรกรจำนวนมาก เพราะอินทผลัมปลูกดูแลง่าย แถมขายได้ราคาสูง ทำให้เกษตรกรแห่ปลูกกันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จ ร่ำรวยเป็นเศรษฐีกันได้ทุกราย ขึ้นอยู่กับฝีมือการผลิตและการตลาดของเกษตรกรแต่ละรายเป็นหลัก

วันนี้ขอพาไปเยี่ยมชม “อินผลัม”สวนฉัตรรวี ของ วีระชัย แช่มรัมย์ อายุ 47 ปี เกษตรกร บ้านหนองเข้ หมู่ 6 ต.สุไพบูลย์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา อีก 1 เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จสูงสุด หลังจากปรับเปลี่ยนการปลูกพืชไร่ เช่น มันสำปะหลัง ซึ่งมักประสบปัญหาราคาตกต่ำและไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน หันมาปลูก“อินทผาลัม”ผสมผสานกับทำสวน ” อโวคาโด”ช่วงนี้กำลังประสบความสำเร็จ ให้ผลผลิตและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรสูงมาก และเป็นพืชระยะยาวที่สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

คุณวีระชัย แช่มรัมย์ เจ้าของสวนสวนฉัตรรวี บอกกว่า เลิกทำไร่มันสัมปะหลังเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เนื่องจากมักประสบปัญหาราคาตกต่ำและไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนจึงหันมาทำสวนอินทผาลัมควบคู่กับ อโวคาโด ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สร้างรายได้มั่นคง ตลาดต้องการสูง โดยปลูกอินทผลัมสายพันธุ์บาฮี และปลูก อโวคาโด สายพันธุ์ปีเตอร์แฮส จำนวนไร่ 30 ไร่ ทำไร่”อินทผาลัม”ชื่อ “สวนฉัตรรวี” อยู่ในพื้นที่ ม.6 บ้านหนองเข้ ต.สุไพบูลย์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ขณะนี้อินทผลัม เริ่มให้ผลผลิตเหลืองอร่ามเต็มสวน มีคุณภาพ รสชาติหวานกรอบ ปลอดสารเคมี และเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา สวนแห่งนี้สามารถจำหน่ายผลอินทผลัมสด และอะโวคาโด ได้เป็นจำนวนมาก โดยอินทผลัม จะจำหน่ายผลสดราคากิโลกรัมละ 450 บาท ซึ่งแต่ละรอบที่ตัดออกมาขาย จะมีผลผลิตออกมาไม่ต่ำกว่า 2-3 ร้อยกิโลกรัมต่อรอบ สามารถสร้างเม็ดเงินได้มากกว่า 1 แสนบาทเลยทีเดียว

คุณ วีระชัย บอกว่า ไม่เพียงแต่ทำสวนอันทผาลัมอย่างเดียวยังมีสวนยังปลูกอะโวคาโด หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งราคาขายก็อยู่ที่กิโลกรัมละ 80 ถึง 100 บาท และก็ยังเปิดเป็นคาเฟ่ ให้เข้าชมสวนอินทผาลัมและอะโวคาโด ฟรี โดยผู้ที่มาเยี่ยมชมสวน สามารถเลือกซื้อผลไม้สดจากทางสวนได้ ซึ่งที่สวนจะมีการแปรรูปผลไม้ที่ได้จากภายในสวนด้วย ในรูปแบบของอินทผาลัมอบแห้ง และสมูทตี้อินทผาลัม ส่วนเมนูสำหรับคนที่รักสุขภาพ ก็จะเป็นอโวคาโด สมูทตี้ผสมน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะทางสวนจะใช้ผลอะโวคาโดสุก นำมาปั่นผสมกับน้ำผึ้ง ทำให้เกิดรสชาติที่นุ่มละมุน หอมหวานน้ำผึ้ง

ด้านนายธิติพัทธ์ ชัญถาวร เกษตรอำเภอเสิงสาง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเสิงสาง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ในพื้นที่แห่งนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกมันสำปะหลังและอ้อยสลับกันมาทั้งชีวิต แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากราคาค่อนข้างต่ำและไม่แน่นอน จึงทดลองปลูกพืชอื่นๆที่จะสามารถสร้างรายได้ที่ดีกว่า และมีอายุเก็บเกี่ยวยาวนาน เพื่อหยุดระบบการลงทุนวนซ้ำไปซ้ำมาทุกๆปี

โดยเกษตรกรได้ไปศึกษาตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ จนมาพบกับอินทผลัมกินสด ซึ่งเป็นพืชที่มองดูแล้วน่าสนใจ มีราคาสูง เป็นที่จูงใจของเกษตรและตลาด อีกทั้ง เป็นพืชที่ดูแลได้ง่าย มีถิ่นกำเนิดในประเทศอาหรับที่แห้งแล้ง เกษตรกรจึงมองว่า หากนำมาปลูกในที่ดินของตน ซึ่งมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย น่าจะได้ผลดีกว่า เพราะสภาพดินที่นี่สมบูรณ์กว่าถิ่นกำเนิดของอินทผลัมมาก โดยอินทผลัมมีอายุยืนกว่า 80 ปีเลยทีเดียว

สำหรับลูกค้าในช่วงนี้ ที่ประสบปัญหาเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ไม่สะดวกเดินทางมาชมที่สวน ทางสวนจะเน้นการขายออนไลน์ และเน้นส่งผลผลิตทางขนส่ง โดยที่จะรับลูกค้าผ่านทางออนไลน์ที่โฆษณาในโซเชียลต่างๆ ไว้ แต่ถ้าหากลูกค้าท่านใดสะดวกหรือต้องการที่จะมาเที่ยวชมและเลือกซื้อชิมกันถึงสวนฉัตรรวี ก็พร้อมที่จะต้อนรับลูกค้าทุกคน