ททท.ประเมินหยุดลากยาว 6 วันกระตุ้นเที่ยวไทยคึกคัก เงินสะพัด 1.66 หมื่นล้านบาท กลุ่มกำลังซื้อสูงแห่เที่ยวนอก ส่วนคนมีเงินน้อยฮิตเที่ยวจังหวัดใกล้ กทม.ประหยัดค่าใช้จ่าย
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า งานวิเคราะห์ตลาดในประเทศ กองกลยุทธ์การตลาด ททท.ประเมินหลังจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้วันที่ 31 ก.ค. 2566 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ทำให้มีวันหยุดยาวต่อเนื่องติดต่อกัน รวมเป็น 6 วัน (28 ก.ค. – 2 ส.ค. 2566)
คาดว่าช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อเนื่องไปถึงวันเข้าพรรษา ปี 2566 จะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวประมาณ 4.96 ล้านคน-ครั้ง มีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนมากกว่า 16,600 ล้านบาท และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 63% โดยภาคตะวันออกมีอัตราการเข้าพักแรมเฉลี่ยสูงสุด 68%
นายยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนเดินทางเข้าพื้นที่มากที่สุด ส่วนภาคใต้อยู่ในช่วง Low Season เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนไม่เหมาะกับการทำกิจกรรมทางทะเล อุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามันปิดการเข้าชมเพื่อพื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนเดินทางเข้าพื้นที่น้อยที่สุดในช่วงวันหยุดนี้
ส่วนปัจจัยลบอย่างภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูง จึงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการใช้จ่ายของคนไทย นอกจากนี้กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงจะใช้ช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องนี้ออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นเช่นกัน
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงวันหยุดนี้พบว่า 10 อันดับแรกเป็นแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองหลักของทุกภูมิภาค สะท้อนให้เห็นว่า คนไทยยังคงเลือกเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดหลักมากกว่าเมืองรอง โดยคาดว่าส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยที่เกื้อหนุนในด้านความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าพื้นที่ ความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวประเภท Man Made
นอกจากนี้ ปัจจัยความพร้อมด้าน facilities ของโรงแรมที่พักและมีเป็นจำนวนมาก สามารถรองรับความหลากหลายของกลุ่มนักท่องเที่ยวประเภทต่างๆไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้สูงอายุ มากกว่าพื้นที่เมืองรอง
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยที่เดินทางเข้าพื้นที่มากที่สุด หากไม่นับรวมกรุงเทพมหานคร พบว่ายังคงเป็นจังหวัดท่องเที่ยวระยะใกล้ใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับพักหรือพักค้าง ซึ่งได้แก่ กาญจนบุรี นครราชสีมา ระยอง และชลบุรี อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวมีการใช้จ่ายไม่สูงมากนักสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงทำให้จังหวัดดังกล่าวยังคงถูกเลือกเป็นอันดับต้นๆ ในการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดนี้