ตร.ไซเบอร์ เปิดปฏิบัติล่าข้ามโลก บุกค้นบ้านหรูมูลค่า 60 ล้าน ทลายแก๊งจีนคริปโตฯ รวบสองสามีภรรยาชาวจีนหลอกตุ๋นลงทุนข้ามชาติ ความเสียหายนับหมื่นล้าน
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 66 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รอง ผบก.สอท.1 สนธิกำลังตำรวจบช.สอท. สำนักงาน ปปง. ชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เปิดปฏิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลกราชาคริปโตฯ ปิดล้อมตรวจค้น 6 จุดในพื้นที่ศรีนครินทร์ และกรุงเทพกรีฑา
โดยจุดที่น่าสนใจคือการตรวจค้นบ้านหรูย่านประเวศ ซึ่งจุดนี้มีด้วยกัน 5 เป้าหมาย มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น เนื้อที่กว่า 150 ตร.วา แต่ละหลังมูลค่า 35-60 ล้านบาท ก่อนจับกุมนายเซาเซียน ซู อายุ 31 ปี และนางคี ยิ ยี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับศาลอาญาที่ 1665-1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน จึงได้ทำการจับกุมตัวพร้อมตรวจยึดเงินสดกว่า 1.5 ล้านบาท โฉนดที่ดินบ้านจัดสรรมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท, หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดหรูย่านสุขุมวิท 4 ห้อง มูลค่า 128 ล้านบาท, ตุ๊กตาแบร์บริค 14 ตัว, โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 เครื่อง ไอแพด คอมพิวเตอร์แมคบุ๊ค กระเป๋าแบรนด์เนม อาทิ แอร์เมส, ชาแนล เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบจุดอื่นๆ ในหมู่บ้านเดียวกันอีกกว่า 16 จุด หลังพบข้อมูลความเชื่อมโยงของกลุ่มดังกล่าว เบื้องต้นตรวจยึดรถยนต์หรู เอกสารหลักฐาน โฉนดที่ดินและเงินสดจำนวนหนึ่ง รวมทั้งตรวจสอบบ้านหรู ย่านกรุงเทพกรีฑาตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากทาง บช.สอท. ได้รับการร้องเรียนผ่านผู้เสียหายจากระบบแจ้งความออนไลน์ว่า ถูกคนร้ายใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิท ผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเซียลมีเดียต่างๆ ก่อนจะชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิทัล หรือ สินทรัพย์ต่างๆ ในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกม ซึ่งมีผู้เสียหายในพื้นที่ สน.ศาลาแดง, สน.โชคชัย และสภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมมูลค่ากว่า 35 ล้าน
นอกจากนี้ได้ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ, ยูเอสซีเคร็ท เซอร์วิส และหน่วยงานกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ว่ามีผู้เสียหายจากประเทศสหรัฐอเมริกา 2 คดี และอังกฤษ 1 คดี ที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายดังกล่าว รวมมูลค่ากว่าพันล้าน และเชื่อว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากและมูลค่าความเสียหายถึงหมื่นล้านบาท