นายไพศาล หงษ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการและโฆษกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยผลการดำเนินงานปีบัญชี 2565 (1 เมษายน 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566) ว่า ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคชนบทระหว่างปี จำนวน 878,338 ล้านบาท ทำให้มียอดสินเชื่อสะสมคงเหลือ จำนวน 1,636,778 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปีบัญชีจำนวน 30,509 ล้านบาท หรือ 1.90%
ยอดเงินฝากสะสม 1,829,549 ล้านบาท มีสินทรัพย์จำนวน 2,262,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.15% หนี้สินรวม 2,109,120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.08% มีกำไรสุทธิ 7,989 ล้านบาท
ขณะที่ NPLs อยู่ที่ 7.68% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) 12.63% สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด
สำหรับปีบัญชี 2566 (1 เมษายน 2566 – 31 มีนาคม 2567) ธ.ก.ส. ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ สร้างวินัยทางการเงินและการออมเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สนับสนุนการแปรรูปและอุตสาหกรรมการเกษตร เน้นการเชื่อมโยงกับเครือข่ายด้านการเกษตรตลอดห่วงโซ่คุณค่า ขับเคลื่อนนวัตกรรมการเกษตรไปสู่เกษตรมูลค่าสูง เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตและสร้างรายได้ที่มั่นคงยั่งยืนให้กับเกษตรกร รวมถึงการสร้างแพลตฟอร์มในการให้บริการแบบครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิทัล ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลด้านการผลิต การเชื่อมโยงห่วงโซ่ธุรกิจภาคการเกษตร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้เกษตรกรสามารถวางแผนการผลิตและสามารถจำหน่ายสินค้าเกษตร ได้ตรงกับความต้องการตลาดอย่างแท้จริง
โดย ธ.ก.ส. วางเป้าหมายสินเชื่อเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 35,000 ล้านบาท เงินฝากเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 12,000 ล้านบาท และ NPLs/Loan อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 6.70%