นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิดมาตั้งแต่ปลายปี 62-65 นั้น ยอมรับว่าขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างการฟื้นตัว เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาไม่มีเที่ยวบิน และรายได้ในเชิงพาณิชย์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้ ทอท.ประสบปัญหาขาดทุนเป็นครั้งแรกกว่า 15,000 ล้านบาท และขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศ ประกอบกับในปี 66 ทอท. จะครบรอบ 43 ปี ดังนั้น จึงเป็นปีที่ท้าทายในการนำธุรกิจสนามบินก้าวข้ามวิกฤติกลับมาปกติให้สำเร็จ เนื่องจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาร์ต้า) องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอเคโอ คาดว่าปี 67 ผู้โดยสารจะกลับมาปกติ และกลับมาเดินทางเข้าเมืองไทยเป็นปกติปีละ 142 ล้านคน ดังนั้น ทอท.จึงต้องเตรียมพร้อมทั้งเรื่องของอาคารผู้โดยสาร อุปกรณ์ ระบบต่างๆ ไว้รองรับอย่างเต็มที่

 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ ทอท.ในปี 65 ยังขาดทุนอยู่ แต่เมื่อมีนโยบายเปิดประเทศ ทอท.ก็มั่นใจว่าจะช่วยให้สถานการณ์องค์กรดีขึ้นหากมีผู้โดยสารกลับมาเดินทางใช้บริการกว่า 60% ขึ้นไป แต่ก็จะมีตัวแปร ที่สำคัญ คือ ผู้โดยสารหลักจากตลาดจีน ว่าจะมีการเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้นหรือไม่ หากเดินทางเข้ามามากก็จะเป็นปัจจัยสำคัญในเรื่องรายได้ นอกจากการเตรียมพร้อมรองรับผู้โดยสารแล้ว ทอท.ยังคงนโยบาย ลดค่าใช้จ่ายในทุกส่วนขององค์กร หากดำเนินการตามแผนได้ก็มั่นใจว่าในปี 67 ทอท.จะกลับมามีกำไรได้

“จะเห็นได้ว่าช่วงปี 62 ก่อนการแพร่ระบาดโควิด มีปริมาณผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 142 ล้านคน/ปี และเมื่อโควิดระบาด มีปริมาณการเดินทางต่ำสุดเหลือ 20 ล้านคน/ปี และมาในปี 65 ทอท.คาดหวังว่าปริมาณผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการสนามบินของ ทอท.จะฟื้นกลับมาได้ที่ 45 ล้านคน/ปี ดังนั้นสถานการณ์ปีนี้หากฟื้นกลับมาได้เพียง 1 ใน 3 หรือแค่ 33% ของปี 62 ก็ถือเป็นแนวโน้มที่ดี ขณะเดียวกันทางผู้บริหาร ทอท.พยายามอย่างยิ่งที่จะทำความเข้าใจกับพนักงานทั้งหมดร่วมมือกันฝ่าวิกฤติครั้งนี้ก้าวสู่ปีที่ 43 และปีที่ 44 ทำให้ธุรกิจสนามบินนานาชาติของประเทศไทยกลับมาผงาดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง”.